ยินดีต้อนรับสู่เว็บ สวดมนต์เจ็ดตำนาน พร้อมทั้งตำนาน อานิสงส์ คำแปลและเสียงสวด ด้วยความยินดียิ่ง แวะเข้ามาเยี่ยมชมบ่อยๆนะครับ

Friday, September 23, 2022

บทสวดมนต์ รัตนสูตร พร้อมกับตำนาน อานิสงส์ คำแปล และเสียงสวด

 


บทสวดมนต์ รัตนสูตร พร้อมกับตำนาน อานิสงส์ คำแปล และเสียงสวด

ระตะนะสุตตัง 

 

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ

อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง

ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ

เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ

ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง

ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา ฯ


ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา

สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง

นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ

อิทัมปิ พุเธ ระตะนัง ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง

ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต

นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ

อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง

สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ

สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ

อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐา

จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ

เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา

เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ ฯ


เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ

นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ

เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ

ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


ยะถินทะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยา

จะตุพภิ วาเตภิ อะสัมปะกัมปิโย

ตะถูปะมัง สัปปุริสัง วะทามิ

โย อะริยะสัจจานิ อะเวจจะ ปัสสะติ

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ

คัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิ

กิญจาปิ เต โหนติ ภุสัปปะมัตตา

นะ เต ภะวัง อัฏฐะมะมาทิยันติ

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ

ตยัสสุ ธัมมา ชะหิตา ภะวันติ

สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉิตัญจะ

สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิ

จะตูหะปาเยหิ จะ วิปปะมุตโต

ฉะ จาภิฐานานิ อะภัพโพ กาตุง

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

 เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง

กาเยนะ วาจายุทะ เจตะสา วา

อะภัพโพ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะ

อะภัพพะตา ทิฏฐะปะทัสสะ วุตตา

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตัคเค

คิมหานะมาเส ปะฐะมัสมิง คิมเห

ตะถูปะมัง  ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ

นิพพานะคามิง ปะระมัง หิตายะ

อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง  ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโร

อะนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ

อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุฯ 



ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง

วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง

เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา

นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง

พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ


ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง

ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุฯ


ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิก

เขตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง

สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุฯ 


2. ตำนานรัตนสูตร


มีตำนานว่า กรุงเวสาลีแคว้นวัชชีเป็นเมืองมั่งคั่งสมบูรณ์ มีประชาชนหนาแน่น คณะผู้ปกครอง

 คือ กษัตริย์ลิจฉวี ปกครองโดยระบอบสามัคคีธรรม กาลครั้งหนึ่ง  แค้นวัชชีเกิดภัย 3 อย่าง คือ

 1.ทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพง 2.อมนุสสภัย พวกอมนุษย์หลอกหลอนประชาชนเกิดความ

ประหวั่นพรั่นใจไม่เป็นปกติสุข 3.เกิดโรคระบาดร้ายแรง ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ชาวเมือง

ต่างตื่นนตระหนกตกใจเสียขวัญไปทั่วทุกหนแห่ง จึงพากันมาร้องเรียนผู้ปกครองเมือง คณะเจ้า

ลิจฉวีจัดประชุมชาวเมืองร่วมกันปรึกษาหารือกัน ให้ทุกคนพิจารณาถึงข้อบกพร่องของคนทั้ง

ส่วนตัวและส่วนการปกครอง  แต่ก็ไม่พบข้อบกพร่องอย่างใดเลย ทุกคนต่างช่วยกันหาสาเหตุ

 ต่างก็แสดงความคิดเห็นถึงวิธีการแก้ไข ได้มีการลงมติให้ช่วยกันทำพิธีบวงสรวงบนบานศาล

กล่าวเทพยดาอารักษ์ที่ตนนับถือแต่ก็ไม่เป็นผล ในที่สุดได้มีความเห็นร่วมกันว่า พระสัมมาสัม

พุทธเจ้าทรงมีพุทธาภินิหารมาก หากเสด็จมายังเมืองนี้ ภัยอาจสงบลงได้ด้วยพุทธานุภาพ จึง

ได้จัดส่งเจ้าชายลิจฉวีกับปุโรหิตนำเครื่องบรรณาการไปถวายพระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าแผ่นดิน

มคธ เพื่อเชิญเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งประทับอยู่ในกรุงราชคฤห์ และให้ทั้งสองเมืองต่าง

ช่วยจัดการส่งเสด็จและรับเสด็จเป็นการมโหฬาร เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จเหยียบแผ่นดิน

วัชชี ฝนโบกขรพรรษก็ตกลงมาทั่วแคว้น ชำระแผ่นวัชชีให้สะอาดหมดจดดีแล้งว พอเสด็จถึง

กรุงเวสาลี ทรงระลึกถึงบารมีการกธรรมปัญจมหาบริจาค และมหาปธานจริยา โปรดให้พระ

อานนท์เรียนรัตนปริตร ทำบาตรน้ำมนต์เจริญรัตนปริตร ประพรมน้ำมนต์ทั่วเมืองรอบกำแพง

พระนคร 3 รอบ แล้วมาถวายบังคมพระพุทธองค์ ซึ่งประทับอยู่ที่สัณฐาคารกลางเมือง พระพุทธ

องค์กับพระสงฆ์เจริญรัตนสูตร 7 วัน 7 คืน ภัยทั้งสามก็ระงับทันที ประชาชนกลับเป็นปกติสุข


3.อานิสงส์รัตนสูตร


บทสวดนี้ : มีอานุภาพของ ขจัดภัยพิบัติอันเกิดจากโรคระบาด ภูตผีปีศาจ และความอดอยาก


4.คำแปลรัตนสูตร


4.1 แปลโดยอรรถ

#ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

หมู่ภูตประจำถิ่นเหล่าใด ประชุมกันแล้วในนครนี้ก็ดี เหล่าใดประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี

#สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ

ขอหมู่ภูตทั้งปวง จงเป็นผู้มีใจดี

#อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง

และจงฟังภ๋ษิตโดยเคารพ

#ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถ สัพเพ

เพราะเหตุนั้นแล ท่านภูตทั้งหลาย จงตั้งใจฟัง

#เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ

กระทำไมตรีจิต ในหมู่มนุษยชาติประชุมกัน

#ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลึง

มนุษย์เหล่าใด ย่อมสังเวยทั้งกลางวันและกลางคืน

#ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา

เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่ประมาท รักษาหมู่มนุษย์เหล่านั้น

#ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา

ทรัพย์เครื่องปลิ้มใจอันใดอันหนึ่งในโลกนี้หรือโลกอื่น

#สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง

หรือรัตนอันใด อันประณีตในสวรรค์

#นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ

รัตนะอันนั้น เสมอด้วยพระตถาคตเจ้าไม่มีเลย

#อิทัมปิ พุทฺเธ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระพุทธเจ้า

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

#ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง, ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต

พระศากยมุนีเจ้า มีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมอันใด เป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สิ้นราคะ เป็นอมฤตธรรม อันประณีต

#นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ

สิ่งไรๆ เสมอด้วยพระธรรมนั้น ย่อมไม่มี

#อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ในพระธรรม

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

#ยัมพุทธะเสฏฐี ปะริวัณณะยี สุจิง

พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทรงสรรเสริญแล้ว ซึ่งสมาธิอันใด เป็นธรรมอันสะอาด

#สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ

บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวซึ่งสมาธิอันใด ว่าให้ผลโดยลำดับ

#สมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ

สมาธิอื่น เสมอด้วยสมาธินั้น ย่อมไม่มี

#อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ในพระธรรม

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

#เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐา, จัตตาริ เอาคานิ ยุคานิ โหนติ

บุคคลเหล่าใด 8 จำพวก 4 คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว

#เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา

บุคลลเหล่านั้น เป็นสาวกของพระสุคต ควรแก่ทักษิณาทาน

#เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ

ทานทั้งหลาย อันบุคคลถวายแล้วในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลมาก

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

#เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ, นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ

พระอริยบุคคลทั้งหลายเหล่าใด ในศาสนาพระโคดมเจ้า ประกอบดีแล้ว มีใจมั่นคง มีความใคร่ออกแล้ว

#เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ

พระอริยบุคคลทั้งหลายเหล่านั้น ถึงพระอรหัตผลที่ควรถึง หยั่งเข้าสู่พระนิพพาน

#ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา

ลัทธา ได้แล้ว นิพพุติง ซึ่งความดับกิเลส(นิพพาน) มุธา เปล่าๆ ภุญชะมานา เสวย(ผล)อยู่

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทํ อะปิ การะณัง อันว่าเหตุแม้นี้ ระตะนัง เป็นรตนะ ปะณีตํ อันประณีต สังเฆ ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยสัจจะ เอเตนะ นี้

#ยะถินถะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยา, จตุพภิวาเตภิ อะสัมปะกัมปิโย

เสาเขื่อนที่ลงดินแล้ว  ไม่หวันไหว ด้วยพายุ 4 ทิศ ฉันใด

#ตถูปะมัง สัปปุริสัง วะทามิ, โย อะริยะสัจจานิ อเวจจะ ปัสสะติ

ผู้ใดเล็งเห็นอริยสัจทั้งหลาย เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นสัตบุรุษ ผู้ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม อุปมาฉันนั้น

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ด้วยตำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

#เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ, คมฺภัระปัญเญนะ สุเทสิตานิ

พระโสดาบันจำพวกใด กระทำให้แจ้งอญุ่ ซึ่งอริยสัจทั้งหลาย อันพระศาสดาผู้มีปัญญาอันลึกซึ้งแสดงดีแล้ว

#กิญฺจาปิ เต โหนติ ภุสัปปะมัตตา

พระโสดาบันจำพวกนั้น ยังเป็นผู้ประมาทก็ดี

#นะ เต ภะวัง อัฏฐมะมาทิยันติ

ถึงกระนั้น ท่านย่อมไม่ถือเอาภพที่ 8 (คือ เกิดอีกอย่างมาก 7 ชาติ)

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

#สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ, ตะยัสสุธัมมา ชะหิตา ภะวันติ,สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉัญจะ, สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิ

สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส อันใดอันหนึ่งยังมีอยู่ ธรรมเหล่านั้น อันพระโสดาบันละได้แล้ว พร้อมด้วยทัสสนสมบัติ ( คือ โสดาปัตตืมรรค) ทีเดียว

#จะตูหปาเยหิ จะ วิปปะมุตโต

อนึ่ง พระโสดาบันเป็นผู้พ้นแล้ว จากอบายทั้ง 4

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

ไม่อาจเพื่อกระทำอภิฐานทั้ง 6 (คือ อนันตริยกรรม 5 และการเข้ารีต)

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ในพระสงฆ์

กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง, กาเยนะ วาจาจุธ เจตสา วา

พระโสดาบันนั้น ยังกระทำบาปกรรมด้วยกาย หรือวาจา หรือใจได้บ้าง(เพราะความพลั้งพลาด)

อะภัพโพ โส ตัสสะ ปฏิจฉะทาย

ถึงกระนั้น ท่านไม่ควรเพื่อจะปกปิดบาปกรรมอันนั้น

#อะภัพพะตา ทิฏฐปะทัสสะ วุตตา

ความเป็นผู้มีทางพระนิพพานอันเห็นแล้ว ไม่ควรปกปิดบาปกรรมนั้น อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

#วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตัคเค, คิมหานะมาเส ปะฐะมัสมิง คิมเห

พุ่มไม้ในป่า มียอดอันบานแล้ว ในเดือนต้นคิมหะ แห่งคิมหฤดู ฉันใด

#ตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยิม นิพพานะคามิง ปะระมัง หิตายะ

พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงแสดงพระธรรม ให้ถึงพระนิพพาน เพื่อประโยชน์แก่สัตว์ทั้งหลาย มีอุปมาฉันนั้น

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ในพระพุทธเจ้า

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

#วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโร

พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ  ทรงทราบธรรมอันประเสริฐ  ประทานธรรมอันประเสริฐ นำมาซึ่งธรรมอันประเสริฐ

#อะนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ

เป็นผู้เลิศล้น ได้แสดงแล้ว ซึ่งพระธรรมอันประเสริฐ

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ในพระพุทธเจ้า

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

#ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง

กรรมเก่า ของพระอริยบุคคลเหล่าใดสิ้นแล้ว กรรมสมภพใหม่ย่อมไม่มี

#วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง

พระอริยบุคคลเหล่าใด มีจิตอันหน่ายแล้วในภพต่อไป

#เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา

พระอริยบุคคลเหล่านั้น มีพืชสิ้นไปแล้ว มีความพอใจงอกไม่ได้แล้ว

#นิพพันติ ธีรา ยถายัมปะทีโป

เป็นผู้มีปัญญา ย่อมปรินิพพาน เหมือนประทีปอันดับไป ฉะนั้น

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

#ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภูตประจำถิ่นเหล่าใด ประชุมกันแล้วในพระนครนี้ก็ดี เหล่าใดประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี

#ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง, พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ

เราทั้งหลาย จงนมัสการพระพุทธเจ้า ผู้มาแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทพยาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสวัสดีจงมี

#ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภูตประจำถิ่นเหล่าใด ประชุมกันแล้วในพระนครนี้ก็ดี เหล่าใดประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี

#ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง, พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ

เราทั้งหลาย จงนมัสการพระพุทธเจ้า ผู้มาแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทพยาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสวัสดีจงมี

#ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภูตประจำถิ่นเหล่าใด ประชุมกันแล้วในพระนครนี้ก็ดี เหล่าใดประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี

#ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง, พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ

เราทั้งหลาย จงนมัสการพระพุทธเจ้า ผู้มาแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทพยาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสวัสดีจงมี

 

4.2 แปลโดยยกศัพท์

 

#ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

ภูตานิ อันว่าหมู่ภูตทั้งหลาย ยานิ เหล่าใด ภุมมานิ ผู้ประจำถิ่น

อิธะ นะคะเร ยานิ ภุมมานิ ภูตานิ สะมาคะตานิ วา อันว่าภูตทั้งหลาย ผู้ประจำถิ่น

อันตะลิกเข ยานิ ภุมมานิ ภูตานิ สะมาคะตานิ หรือว่าอันว่าภูตทั้งหลาย ผู้ประจำถิ่น ผู้มาประชุมกันแล้วในอากาศ โหนิติ ย่อมเป็น

#สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ

สัพเพ ภูตา อันว่าภูตทั้งหลายทั้งปวง สุมะนา เป็นผู้มีใจดี โหนฺติ ย่อมเป็น

#อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง

อะโภปิ แม้อนึ่ง สพฺเพ ภูตา อันว่าภูตทั้งหลายทั้งปวง สุณนตุ จงฟัง ภาสิตํ ซึ่งภาษิต สักกจฺจัง โดยความเคารพ

#ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถ สัพเพ

ตัสมา หิ เพราะเหตุนั้นแล สัพเพ ภูตา อันว่าภูตทั้งหลายทั้งปวง นิสาเมถ จงตั้งใจฟัง

#เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ

กะโรถะ จงกระทำ เมตตัง ซึ่งไมตรีจิต ปะชายะ ในหมู่ประชุมชน มานุสิยา ผู้เป็นมนุษย์

#ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลึง

เย มะนุสสา อันว่ามนุษย์ทั้งหลายเหล่าใด หะรันติ ย่อมนำมา พะลิง ซึ่งเครื่องเซ่นสังเวย ทิวา จะ ในตอนกลางวันด้วย รัตโต จะ ในตอนกลางคืนด้วย

#ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา

ตัสมา หิ เพราะเหตุนั้นแล ตุมฺเห อันว่าท่านทั้งหลาย อัปปะมัตตา เป็นผู้ไม่ประมาท รักขะถะ จงปกปักรักษา เน มะนุสเส ซึ่งมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้น

#ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา

วิตตัง อันว่าทรัพย์เครื่องปลื้มใจ ยังกิญจิ อย่างใดอย่างหนึ่ง โหติ อตฺถิ มีอยู่อิธะ โลเก วา ในโลกนี้หรือ หุรัง โลเก วา หรือว่าในโลกอื่น

#สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง

วา หรือว่า ระตะนัง อันว่ารัตนะ ปะณีตัง อันประณีต ยัง ใด อตฺถิ มีอยู่ สัคเคสุ ในสวรรค์ทั้งหลาย

#นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ

ตํ ระตะนัง อันว่ารัตนะนั้น สะมัง เป็นสิ่งเสมอ ตะถาคะเตนะ ด้วยพระตถาคต น โน อัตถิ ย่อมไม่มีเลย

#อิทัมปิ พุทฺเธ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทัมปิ การะณัง อันว่าเหตุนี้ ระตะนัง เป็นรัตนะ ปะณีตัง อันประณีต พุทเธ ในพระพุทธเจ้า โหติ ย่อมเป็น

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยคำสัตย์ เอเตนะ นี้

#ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง, ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต

สักยะมุนี อันว่าพระศากยมุนี สะมาหิโต มีพระทัยดำรงมั่นอัชฌคา ได้บรรลุแล้ว ยัง ธัมมัง ซึ่งพระธรรมอันใด ขะยัง อันเป็นสิ้นกิเลส วิราคัง อันเป็นที่สิ้นราคะ อะมะตัง อันเป็นอมฤติธรรม ปะณีตัง อันปะณีต

#นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ

กิญจิ วัตถุ อันว่าสิ่งใดๆ สะมัตถะ เป็นสิ่งเสมอ ธัมเมนะ ด้วยพระธรรม เตนะ นั้น นะ อตฺถิ ย่อมไม่มี

#อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง

อืทํ อะปิ การะณัง อันว่าเหตุ แม้นี้ ระตะนัง เป็นรัตนะ ปะณีตัง อันประณีต ธัมเม ในพระธรรม

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยคำสัตย์ เอเตนะ นี้

#ยัมพุทธะเสฏฐี ปะริวัณณะยี สุจิง

พุทธะเสฏโฐ อันว่าพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ปะริวัณณะยี ผู้ทรงสรรเสริญ สุจิง สะมาธิง ซึ่งสมาธิใดว่าเป็นธรรมอันสะอาด

#สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ

ปัณฑิตา อันว่าบัณฑิตทั้งหลาย อาหุ กล่าวแล้ว ยัง สะมาธิง ซึ่งสมาธิใด อะนันตะริกัง ว่าให้ผลโดยลำดับ

#สมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ

อัญญะสะมาธิ อันว่าสมาธิอื่น สะโม อันเสมอ สะมาธินา ด้วย(พุทธะ)สมาธิ เตนะ นั้น นะ วิชชะติ ย่อมไม่มี

#อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง

อิทัง อะปิ การะณัง อันว่าเหตุแม้นี้ ระตะนัง เป็นรัตนะ ประณีตัง อันประณีต ธัมเม ในธรรม โหติ ย่อมเป็น

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยคำสัตย์ เอเตนะ นี้

#เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐา, จัตตาริ เอาคานิ ยุคานิ โหนติ

ปุคคะลา อันว่าบุคคลทั้งหลาย เย หล่าใด อัฏฐะสะตัง แปดจำพวก ยุคานิ อันว่าคู่ทั้งหลาย จัตตาริ จำนวนสี่ เอตานิ เหล่านี้ โหนติ มีอยู่ เต ปุคคะลา อันว่าบุคคลทั้งหลายเหล่านั้น ปะสัฏฐา เป็นผู็อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว โหนติ

#เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา

เต ปุคคะลา อันว่าบุคคลทั้งหลายเหล่านั้น สาวะกา เป็นสาวก สุคะตัสสะ ของพระสุคต ทักขิเณยยา เป็นผู้ควรแก่ทักษิณาทาน โหนติ ย่อมเป็น

#เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ

ทานานิ อันว่าทานทั้งหลาย ทินนานิ อันบุคคลให้แล้ว เอเตสุ ในบุคคลทั้งหลายเหล่านั้น มะหัปผะลานิ มีผลมาก โหนติ ย่อมเป็น

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทัง อะปิ การะณัง อันว่าเหตุ แม้นี้ ระตะนัง เป็นรัตนะ ปะณีตัง อันประณีต สังเฆ ในพระสงฆ์ โหติ ย่อมเป็น

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจน ด้วยคำสัตย์ เอเตนะ นี้

#เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ, นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ

เย อริยะปุคคะลา อันว่าพระอริยบุคคลทั้งหลายเหล่าใด โคตะมะสาสะนัมหิ ในศาสนาของพระโคดม สุปปะยุตตา เป็นผู้ประกอบดีแล้ว มนสา มีใจ ทัฬเหน อันมั่นคง นิกามิโน เป็นผู้มีความใคร่ออกไปแล้ว โหนติ ย่อมเป็น

#เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ

เต อะริยะปุคคะลา อันว่าพระอริยบุคคลเหล่านั้น วิคัยหะ ถึงแล้ว อะมะตัง ซึ่งอมฤตตธรรม(นิพพาน)

#ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา

ลัทธา ได้แล้ว นิพพุติง ซึ่งความดับกิเลส(นิพพาน) มุธา เปล่าๆ ภุญชะมานา เสวย(ผล)อยู่

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทํ อะปิ การะณัง อันว่าเหตุแม้นี้ ระตะนัง เป็นรตนะ ปะณีตํ อันประณีต สังเฆ ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยสัจจะ เอเตนะ นี้

#ยะถินถะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยา, จตุพภิวาเตภิ อะสัมปะกัมปิโย

อินทะขีโล อันว่าเสาเขื่อน ปฐวิง  สิโต เป็นสิ่งอันบุคคลฝังลงในดินแล้ว จตุพภิวาเตภิ อะสัมปะกัมปิโย เป็นสิ่งไม่โยกคลอน ด้วยลมจากสี่ทิศทั้งหลาย สิยา  พึงเป็น ยะถา ฉันใด

#ตถูปะมัง สัปปุริสัง วะทามิ, โย อะริยะสัจจานิ อเวจจะ ปัสสะติ

โย ปุคฺคโล อันว่าบุคคลใด ปัสสะติ ย่อมเห็น อะริยะสัจจานิ ซึ่งอริยสัจทั้งหลาย อเวจจะ อันไม่สั่นคลอน อหัง อันว่าเรา(ข้าพเจ้า) วะทามิ ย่อมเรียก ตํ ปุคคะลํ ซึ่งบุคคลนั้น สัปปุริสัง ว่าเป็นสัตบุรุษ ตถา อุปะมัง มีอุปมาฉันนั้น

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทํ อะปิ การะณัง อันว่าเหตุ แม้นี้  ระตะนัง เป็นระตะนะ ปะณีตัง อีนประณีต สังเฆ ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยสัจจะ เอเตนะ นี้

#เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ, คมฺภัระปัญเญนะ สุเทสิตานิ

เย โสตาปันนา อันว่าพระโสดาบันทั้งหลายเหล่าใด อะริยะสัจจานิ ยังอริยสัจทั้งหลาย คัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิ อันอันพระพระศาสนาทรงแสดงดีแล้ว ด้วยพระปัญญาอันลุ่มลึก วิภาวะยันติ ให้แจ่มกระจ่างแล้ว

#กิญฺจาปิ เต โหนติ ภุสัปปะมัตตา

เต โสตาปันนา อันว่าพระโสดาบันทั้งหลายเหล่านั้น ภุสัปปะมัตตา เป็นผู้ยังประมาทอย่างแรงกล้า กิญจาปิ แม้โดยแท้

#นะ เต ภะวัง อัฏฐมะมาทิยันติ

เต โสตาปันนา อันว่าพระโสดบันทั้งหลายเหล่านั้น น อาทิยนฺติ ย่อมไม่ถือเอา ภวํ ซึ่งภพ อัฏฐะมังที่แปด(เกิดอีกอย่างมาก 7 ชาติ)

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทํ อะปิ การะณัง อันว่าเหตุแม้นี้ ระตะนัง เป็นรตนะ ปะณีตํ อันประณีต สังเฆ ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยสัจจะ เอเตนะ นี้

#สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ, ตะยัสสุธัมมา ชะหิตา ภะวันติ,สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉัญจะ, สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิ

สักกายะทิฏฐิ วา อันว่าสักกายทิฏฐิหรือ วิจิกิจฉัง วา หรือว่าอันว่าวิจิกิจฉา สีลัพพะตัง วา หรือว่าสีลัพพตะ ยังกิญจิ อย่างหนึ่งอย่างใด อัตถิ มีอยู่ ตโย ธัมมา อันว่าธรรมทั้งหลาย 3 อย่าง อัสสะ โสตาปันปันนัสสะ ชะหิตา เป็นอันพระโสดาบันนั้น ละได้แล้ว ภวนฺติ ย่อมเป็น สะหะ เอว อัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ กับด้วยทัสสนสัมปทานั้นนั่นเดียว

#จะตูหปาเยหิ จะ วิปปะมุตโต

โสตาปันโน อันว่าพระโสดาบัน จตูหิ อะปาเยหิ วิปฺปมุตโต จ เป็นผู้พ้นแล้ว จากอบายทั้งหลาย 4 อย่างด้วย จ อภิฐานานิ กาตุง อะภัพโพ จ เป็นผู้ไม่สมควรเพื่ออันทำซึ่งอภิฐาน 6 อย่าง (อนันตริยกรรม 5 และการเข้ารีต)  โหติ ย่อมเป็น

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทํ อะปิ การะณัง อันว่าเหตุแม้นี้ ระตะนัง เป็นรตนะ ปะณีตํ อันประณีต สังเฆ ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยสัจจะ เอเตนะ นี้

กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง, กาเยนะ วาจาจุธ เจตสา วา

โส โสตาปันโน อันว่าพระโสดาบันนั้น กะโรติ ย่อมกระทำ กัมมัง ซึ่งกรรม ปาปกํ อันเป็นบาป กาเยน วาจาย อุทะ ด้วยกายหรือ เจตะสา วา หรือว่าด้วยวาจา กิญจาปิ แม้โดยแท้

อะภัพโพ โส ตัสสะ ปฏิจฉะทาย

ปน ถึงกระนั้น โส โสตาปันโน อเนว่าพระโสดาบันนั้น อะภัพโพ เป็นผู้ไม่ควร ตสฺส ปาปะกัมมัสสะ ปฏิจฉะทายะ เพื่ออันปกปิดซึ่งบาปกรรมนั้น

#อะภัพพะตา ทิฏฐปะทัสสะ วุตตา

ทิฏฐะปะทัสสะ อะภัพพะตา อันว่าความที่แห่งบทแห่งพระนิพพานอันเห็นแล้วไม่ควรปกปิด ภควตา อันพระผู้มีพระภาคเจ้า วุตตา ตรัสแล้ว

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทํ อะปิ การะณัง อันว่าเหตุแม้นี้ ระตะนัง เป็นรตนะ ปะณีตํ อันประณีต สังเฆ ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยสัจจะ เอเตนะ นี้

#วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตคฺเคม คิมหานะมาเส ปะฐะมัสมิง คิมเห

วะนัปปะคุมเพ(วะนัปปะคุมโพ) อันว่าพุ่มไม้ในป่า ผุสสิตัคเค(ผุสสิตัคโค) มียอดอันบานแล้ว คิมเห ใน คิมหะ ปะฐะมัสมิง แรกคิมหานมาเส แห่งเดือนคิมหะ โหติ ย่อมเป็น ยะถา ฉันใด

#ตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยิม นิพพานะคามิง ปะระมัง หิตายะ

ภควา อันว่าพระผู้มีพระภาคเจ้า อะเทสะยิ ได้ทรงแสดงแล้ว ธมมะวะรัง ซึ่งพระธรรมอันประเสริฐ นิพพานะคามิง อันให้ถึงซึ่งพระนิพพาน ประระมัง อันยอดเยี่ยม หิตาย เพื่อประโยชน์ เวเนยยานัง แก่เวไนยสัตว์ทั้งหลาย ตถา ฉันนั้น

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทํ อะปิ การะณัง อันว่าเหตุแม้นี้ ระตะนัง เป็นรตนะ ปะณีตํ อันประณีต สังเฆ ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยสัจจะ เอเตนะ นี้

#วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโร

พุทฺโธ อันว่าพระพุทธเจ้า วะโร ผู้ประเสริฐ วะรัญญู  ผู้ทรงทราบซึ่งธรรมอันประเสริฐ วะระโท ผู้ทรงประทานซึ่งธรรมอันประเสริฐ วะราหะโร ผู้ทรงนำมาซึ่งธรรมอันประเสริฐ

#อะนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ

อะนุตตะโร เป็นผู้เลิศล้น อเทสะยิ ได้ทรงแสดงแล้ว ธัมมะวะรัง ซึ่งพระธรรมอันประเสริฐ

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทํ อะปิ การะณัง อันว่าเหตุแม้นี้ ระตะนัง เป็นรตนะ ปะณีตํ อันประณีต สังเฆ ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยสัจจะ เอเตนะ นี้

#ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง

กัมมัง อันว่ากรรม ปุราณํ อันเก่า ขีณัง เป็นอันสิ้นแล้ว โหติ ย่อมเป็น กัมมัง อันว่ากรรม นะวัง อันใหม่ สัมภะวัง อันจะนำไปเกิด นัตถิ ย่อมไม่มี

#วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง

เย อะริยะปุคคะลา อันว่าพระอริยบุคคลเหล่าใด ภะวัสมิง วิรัตตจิตตายะติกา(เก) เป็นผู้มีใจหน่ายแล้วในภพ

#เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา

เต อะริยปุคคะลา อันว่าพระอริยบุคคลเหล่านั้น ขีณพีชา เป็นผู้มีพืชสิ้นไปแล้ว อะวิรุฬหิฉันทา เป็นผู้มีความพอใจงอกไม่ได้แล้ว

#นิพพันติ ธีรา ยถายัมปะทีโป

ธีรา เป็นผู้มีปัญญา หุตฺวา เป็น  นิพพันติ ย่อมดับ  ยถา ปะทีโป อันว่าประทีป ดับไป ฉันใด เอวํ ฉันนั้น

#อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

อิทํ อะปิ การะณัง อันว่าเหตุแม้นี้ ระตะนัง เป็นรตนะ ปะณีตํ อันประณีต สังเฆ ในพระสงฆ์

#เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี สัจเจนะ ด้วยสัจจะ เอเตนะ นี้

#ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

ภูตานิ อันว่าหมู่ภูตทั้งหลาย ยานิ เหล่าใด ภุมมานิ ผู้ประจำถิ่น

อิธะ นะคะเร ยานิ ภุมมานิ ภูตานิ สะมาคะตานิ วา อันว่าภูตทั้งหลาย ผู้ประจำถิ่น

อันตะลิกเข ยานิ ภุมมานิ ภูตานิ สะมาคะตานิ หรือว่าอันว่าภูตทั้งหลาย ผู้ประจำถิ่น ผู้มาประชุมกันแล้วในอากาศ โหนิติ ย่อมเป็น

#ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง, พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ

มะยัง อันว่าข้าพเจ้าทั้งหลาย นะมัสสามะ จงนมัสการ พุทธัง ซึ่งพระพทธเจ้า  ตะถาคะตัง ผู้มาแล้วอย่างนั้น เทวมะนุสสานัง ผู้อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี

#ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

ภูตานิ อันว่าหมู่ภูตทั้งหลาย ยานิ เหล่าใด ภุมมานิ ผู้ประจำถิ่น

อิธะ นะคะเร ยานิ ภุมมานิ ภูตานิ สะมาคะตานิ วา อันว่าภูตทั้งหลาย ผู้ประจำถิ่น

อันตะลิกเข ยานิ ภุมมานิ ภูตานิ สะมาคะตานิ หรือว่าอันว่าภูตทั้งหลาย ผู้ประจำถิ่น ผู้มาประชุมกันแล้วในอากาศ โหนิติ ย่อมเป็น

#ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง, ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ

มะยัง อันว่าข้าพเจ้าทั้งหลาย นะมัสสามะ จงนมัสการ พุทธัง ซึ่งพระธรรม ตะถาคะตัง อันมาแล้วอย่างนั้น เทวมะนุสสานัง ผู้อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี

#ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ

ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

ภูตานิ อันว่าหมู่ภูตทั้งหลาย ยานิ เหล่าใด ภุมมานิ ผู้ประจำถิ่น

อิธะ นะคะเร ยานิ ภุมมานิ ภูตานิ สะมาคะตานิ วา อันว่าภูตทั้งหลาย ผู้ประจำถิ่น

อันตะลิกเข ยานิ ภุมมานิ ภูตานิ สะมาคะตานิ หรือว่าอันว่าภูตทั้งหลาย ผู้ประจำถิ่น ผู้มาประชุมกันแล้วในอากาศ โหนิติ ย่อมเป็น

#ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง, สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ

มะยัง อันว่าข้าพเจ้าทั้งหลาย นะมัสสามะ จงนมัสการ พุทธัง ซึ่งพระสงฆ์ ตะถาคะตัง อันมาแล้วอย่างนั้น เทวมะนุสสานัง ผู้อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว สุวัตถิ อันว่าความสวัสดี โหตุ จงมี

5.เสียงสวด

https://youtu.be/mpDgCdqlyXQ



No comments:

Post a Comment

Google

Custom Search